รีวิวกล้อง Sony A9
รีวิวกล้อง Sony A9 เป็นกล้องมิลเลอร์เลสระดับโปรที่ก้าวเข้ามาเทียบชั้นกับกล้อง DSLR ในระดับมืออาชีพ และถือเป็นการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องของค่ายโซนี่ โดยเป็นกล้องที่มาพร้อมกับระบบเซนเซอร์ Stacked Exmor RS CMOS ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
นอกจากนี้ A9 ยังมีกรอบโฟกัสที่กว้างมากเป็นพิเศษในระบบ Phase Detection มีจุดโฟกัสภาพมากถึง 693 และโฟกัสแบบ 4D รวมทั้งยังสามารถตั้งค่าการถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 20 เฟรมต่อวินาที นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นมากมาย โดยกล้องรุ่นนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีลํ้าหน้า พร้อมทั้งมีความคงทน และน้ำหนักเบา เหมาะพกพาไปลุยได้ในทุกๆ สภาวะ
เรียกว่าการเปิดตัวของกล้อง Sony A9 นั้นสร้างเสียงฮือฮาและทำให้ A9 กลายเป็นกล้องที่ถูกจับตามองมากที่สุดในเวลานี้ทั้งในด้านของเทคโนโลยีและประสิทธิภาพของกล้อง ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า Sony A9 นั้นไม่ใช่กล้องที่ออกมาแทน Sony A7 แต่อย่างใด เพราะทั้ง 2 รุ่นมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน โดยตัว A7 mark II นั้นออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานทั่ว ๆ ไป A7r mark II ตัว R มาจากคำว่า Resolution เหมาะสำหรับคนที่ต้องการภาพที่ความละเอียดสูง A7s mark II ตัว S มาจากคำว่า Sensitivity กับจุดเด่นที่มีในเรื่องของความไวแสงที่ดีกว่ารุ่นอื่น ๆ ส่วน A9 นั้นเน้นเรื่องของความเร็ว ไม่ว่าจะเป็นความเร็วในการถ่ายภาพ ความเร็วโฟกัสและนั้นเองทำให้ A9 แตกต่างจาก A7 series

(จุดเด่น สเปกกล้อง Sony A9)
- 24.2 ล้านพิกเซล ฟูลเฟรม เซ็นเซอร์ Stacked CMOS
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 20 fps แบบไม่เกิด blackout และโฟกัสตลอด (electronic shutter, 12-bit files)
- จำนวน buffer 241 ภาพ แบบ compressed Raw (362 JPEG)
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 fps เมื่อต่อกับ Adapter auto focus
- จุดโฟกัส 693 จุด
- กันสั่น 5 แกนที่บอดี้ ตามเสปกกันได้ประมาณ 5-stop
- ช่องมองภาพอิเลคทรอนิค OLED 3.7M-dot (1280 x 960 pixels) เฟรมเรท 120 fps
- จอหลัง ทัชสกรีน 1.44M-dot
- บันทึกวิดิโอ 4K/24p เต็มความกว้างเซ็นเซอร์ (1.24x crop for 30p)
- ช่องใส่การ์ด 2 Slot (รองรับ UHS-II 1 sl
บอดี้แกร่ง พร้อมลุยทุกสภาวะ

Sony A9 มีโครงสร้างที่น้ำหนักเบาเนื่องจากใช้แม็กนีเซียม อัลลอยที่มีความแข็งแกร่งสูงตั้งแต่โครงชิ้นหน้ารวมทั้งส่วนกริป เฟรมด้านใน ตัวเฟรมด้านหลัง และชิ้นฝาด้านบน แข็งแกร่ง ในส่วนของพื้นที่กริปก็เพิ่มขึ้น แม้ว่ากล้องรุ่นนี้จะมีขนาดและน้ำหนักเท่ากับรุ่น A7 แต่รุ่น A9 ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นและการทำงานที่ไม่เคยมีมาก่อน
ตัวเครื่องมีตลอดทั้งบอดี้เพื่อป้องกันฝุ่นเล็กๆ และกันความชื้น นั่นทำให้คุณสามารถใช้ฟังก์ชั่นได้อย่างเต็มที่ในทุกๆ สภาพแวดล้อม ขณะที่ตัวปุ่มหลัก และแป้นหน้าปัดก็มีการซีลอย่างดีเช่นกัน ในส่วนของแจ็ค และบริเวณขอบกั้นรอบต่อมีการป้องกันถึงสองชั้น สามารถทนทานกับสภาพฝุ่นหนาแน่นและทนต่อสภาพความชื้นทั้งที่ตัวเลนส์, กริปแนวตั้ง และแฟลช ไปจนถึงรอยต่อต่างๆ
ฟูลเฟรมตัวแรกของโลกที่ใช้เซนเซอร์ STACKED EXMOR RS CMOS

สำหรับกล้องรุ่นนี้ใช้เซนเซอร์ขนาดใหญ่ตัวแรก โดยเป็นกล้องฟูลเฟรมที่มีเซนเซอร์ Stacked Exmor RS CMOS ขนาด 33 มิลลิเมตร พร้อมกับตัวเมมโมรี่ และจำนวนฟีเจอร์สต่างๆ ที่ช่วยทำให้ภาพออกมาโดดเด่นมีคุณภาพสูง นอกจากนี้ยังมีความไวระดับสูง
นอกเหนือจากเป็นเซนเซอร์แบบ Back-Illumination และ เป็น Gapless on-chip lens แล้ว
ยังมี Stacked Structure Designed สำหรับการอ่านข้อมูลแบบ High Speedสามารถอ่านข้อมูลได้เร็วกว่า Sony 7 II ถึง 20 เท่าถือเป็นนวตกรรมใหม่สำหรับกล้องระดับนี้
ในส่วนของเซนเซอร์ตัวนี้มาพร้อมความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซลและเมื่อทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผล BIONZ X และ Front-end LSI สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ
ความไวแสงสำหรับการใช้งานได้สูงตั้งแต่ ISO 100-51200 ปรับเร่งได้ถึง 204800

ขณะเดียวกันยังสามารถตั้งความไวแสงสำหรับการใช้งานได้สูงตั้งแต่ ISO 100-51200 โดยมีสัญญาณรบกวน Noise ต่ำ และปรับลดได้เทียบเท่า ISO 50 หรือ ปรับเร่งได้สูงเทียบเท่า ISO 204800 ทำให้สามารถถ่ายในที่เเสงน้อยได้ดีเยี่ยม
ระบบโฟกัสแบบ 4D

Sony A9 มีกรอบโฟกัสที่กว้างมากเป็นพิเศษในระบบ Phase Detection มีจุดโฟกัสภาพมากถึง 693 จุด ครอบคลุมพื้นที่ถึง 93% ของกรอบภาพ สามารถจับภาพวัตถุได้แม่นยำแม้วัตถุจะอยู่ที่ขอบภาพ ในส่วนของระบบโฟกัสแบบ Fast Hybrid AF System ที่ทำงานร่วมกันระหว่าง Phase Detection ที่มีจุดโฟกัสมากถึง 693 จุด ร่วมกับ Contrast Detection ที่มีพื้นที่โฟกัสมากถึง 25 พื้นที่ ในการตรวจจับ Contrast ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
สำหรับ Steadfast สามารถตรวจจับวัตถุ และโฟกัสติดตามวัตถุได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยการคำนวณระยะโฟกัสอัตโนมัติล่วงหน้าติดต่อกันถึง 60 ครั้ง/วินาที นั่นหมายความว่าจะทำให้จับโฟกัสได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น และการคำนวนแสงที่รวดเร็วทำให้แสงจะเท่ากันในทุกภาพ
ความเร็วชัตเตอร์สูง

การถ่ายภาพในที่โล่งกว้างมักจะพบกับสภาพอากศที่สว่าง หรือวัตถุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วซึ่งแน่นอนว่ามีโอกาสจะทำให้ภาพบิดเบือนเนื่องจากความเร็วของชัตเตอร์ช้า โดยในกล้องรุ่นนี้มาพร้อมกับระบบไฟฟ้าที่ดีเยี่ยม ให้ความเร็วสูง และมีระบบ Anti-Distortion Shutter ทำให้กล้องมีความเร็วชัตเตอร์สูงประมาณ 1/32,000 วินาที
ในส่วนของโหมด Continuous AF/AE calculation สำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยความเร็วสูงรวมทั้งการติดตามวัตถุ สิ่งสำคัญคือ ความแม่นยำในเรื่องระบบ โฟกัส และค่าของแสงในการถ่ายภาพ โดยกล้องรุ่นนี้มีการประมวลผลอย่างรวดเร็วถึง 60 ครั้งต่อวินาที ทำให้ได้ภาพที่คมชัดและค่าแสงที่ดี แม้ถ่ายภาพด้วยความเร็วสูงถึง 20 ภาพต่อวินาที
ขณะเดียวกัน Sony A9 ได้มีการติดตั้งระบบชัตเตอร์เอาไว้ 2 ระบบได้แก่ระบบชัตเตอร์แบบกลไก (Mechanic) และระบบชัตเตอร์อิเล็กทรอนิก (Electronic) สามารถเลือกใช้งานแบบใดแบบหนึ่งหรือจะเลือกใช้แบบ Auto ทำงานร่วมกันก็ได้
ความเงียบของชัตเตอร์

ระบบ Silent Shutter เป็นอีกระบบที่ Sony A9 มีมาให้ใช้ ระบบนี้เป็นระบบที่ไม่มีเสียงชัตเตอร์เมื่อถ่ายภาพ สำหรับการถ่ายภาพในสถานที่ที่จำกัดการใช้เสียง หรือไม่ต้องการให้เสียงชัตเตอร์ไปรบกวน อย่างเช่นการแข่งขันสำคัญๆ ที่ห้ามใช้เสียง
ระบบกันสั่น 5 แกน สำหรับกล้องรุ่นนี้ได้ติดตั้งระบบลดการสั่นแบบ 5 แกนมาให้ใช้งาน ครอบคลุมการใช้งานทุกรูปแบบของการสั่นไหว และกล้องสามารถแสดงผลจากการทำงานให้ปรากฎบนจอ LCD และในช่องมองภาพอิเล็กทรอนิก EVF ทำให้จัดองค์ประกอบภาพได้ง่ายเพราะภาพนิ่งขึ้นนอกจากนั้นยังทำงานกับการถ่ายวิดีโอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญยังสามารถลดการสั่นไหวในการถ่ายภาพได้ถึง 5 สต็อป ทำให้ได้ภาพที่คมชัดไม่สั่นไหว ใช้งานได้สมบูรณ์ทั้งการถ่ายภาพนิ่งและถ่ายวิดีโอ สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ A-mount พร้อม Mountadapter ได้
ปราศจากเสียงรบกวน

Anti-Distortion Electronic Shutter ทำให้สามารถทำงานไร้เสียงได้ โดยไม่ต้องใช้กระจกกลไกซึ่งมีเสียงชัตเตอร์ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพกีฬา และงานที่ไม่ต้องการเสียงรบกวน ช่วยเพิ่มความหลากหลายในการใช้งานกล้อง
การถ่ายวีดิโอฟูลเฟรม 4K

กล่องรุ่นนี้มีจอภาพแบบ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.44 ล้านพิกเซล สามารถปรับเปลี่ยนองศาได้ พร้อมด้วยระบบหน้าจอสัมผัสที่สามารถแตะเลื่อนจุดโฟกัสได้ ระบบนี้จะช่วยให้การเลื่อนจุดโฟกัสในระบบถ่ายภาพแบบ Movie เป็นไปอย่างนุ่มนวล
ในส่วนของการบันทึกวีดิโอสามารถทำได้ดีเยี่ยมโดยเป็นการบันทึกแบบ 4K ให้คุณภาพสูงโดยสามารถอ่านข้อมูลทุกพิกเซล (6000×3376) ซึ่งมีความละเอียดสูงกว่า 4K ถึง 2.4 เท่า นอกจากนี้ภาพไม่ค่อยมีมอเร่ (Moire ) โดยกล้องรุ่นนี้สามารถบันทึกฟอร์แมต XAVC S ได้โดยให้คุณภาพระดับ 4K ใน 30 เฟรมต่อวินาที30p และ Full HD สามารถทำได้ 120 เฟรมต่อวินาที ด้วยความเร็ว 100 Mbps ซึ่งทำให้คุณสามารถเช็คภาพ และแก้ไข รวมทั้งยังสร้างไฟล์วีดิโอแบบสโลว์โมชั่นได้ 4x หรือ 5x
ภาพถ่ายจากกล้อง Sony A9
อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูปได้ที่ รีวิวกล้อง Fujifilm X-T20
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยวบุรีรัมย์